สวัสดีครับนี้เป็นบทความที่สองของทริปญี่ปุ่นในต้นปี 2023 ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน Chapter 1 ที่ผมไป Kawaguchiko ไปดู Fujisan กดได้ที่ลิงค์นี้เลยครับ https://natdanai.me/tokyo-fujikwaguchiko/
บทความนี้ผมจะเล่าการท่องเที่ยวในโซน Tohoku กัน มาเริ่มต้นด้วยเช้าของอีกวันหลังจากที่นอนที่โตเกียว เช่นเดิมตามแพลนตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อเดินมายังสถานีรถไฟ Ueno ในช่วงเช้ามืดเพื่อให้ทัน Shinkanzen รอบแรกที่จะไป Akita






การขึ้น Shinkanzen จะต้องมีการจองที่นั่งก่อนขึ้นนะครับ ซึ่งผมได้จองไว้ตั้งแต่เมื่อวานหลังกลับมาจาก Kawaguchiko แล้ว






























เมือง Akita ค่อยข้างเงียบสงบผู้คนไม่ค่อยเยอะ นักท่องเที่ยวก็น้อยส่วนใหญ่จะเจอแต่คนญี่ปุ่นจริงๆ ผมเดินทางมาถึงที่นี้ ก็เดินชมหิมะทั่วๆ เมืองแล้วถ่ายรูปอยู่สักพักก่อนที่จะไปหาอะไรกินที่ร้านใกล้ๆสถานีรถไฟ









แพลนวันนี้ก็จะไม่อธิบายอะไรมาก ขออธิบายด้วยภาพ ที่นี่สวยมากถ่ายมุมไหนก็สวย ส่วนแพลนต่อไปต้องเดินทางไปยัง Yamagata ซึ่งห่างจากที่นี้มากใช้เวลา 2-3 ชม. หลังจากนี้ก็จะมีแต่ภาพบรรยายกาศริมทาง




แค่วิวข้างทางเป็นภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ การได้นั่งรถไฟชมวิวก็ถือว่าสุดคุ้มแล้วที่ได้มาที่นี้








มาถึง Yamagata สิ่งแรกที่นึกขึ้นได้คือเนื้อย่าง ผมเดินวนหาเนื้อย่างแถวๆนั้น จนได้มาร้านนี้ก็เลยจัดไป 1 เซ็ทก่อนกลับเข้าที่พักในคืนนี้









เช้าวันนี้เป็นวันแรกที่ผมตื่นสาย ตามแพลนวันนี้คือต้องไป Zao Snow monster ต้องตื่นตี 4 แต่วันนี้ตื่น 6 โมง เพื่อที่จะไปให้ทัน Bus รอบแรกแต่ก็พลาดรอบแรกได้รอบ 2 ก็ยังดี แต่การที่ออกจากที่พักมาในช่วงนี้ทำให้ได้เห็นวิถีชีวิตของนักเรียนญี่ปุ่นเดินไปโรงเรียนกันเป็นกลุ่มแบบนี้





ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมา ผมลากกระเป๋าตลอดทริปมีบ้าง บางเวลาที่ฝากไว้กับโฮสเทลแต่ส่วนใหญ่จะลาก จะบอกว่าใช้พลังงานเยอะมาก แนะนำว่าถ้ามีสถานีใกล้ๆ ฝากดีกว่าครับ 5555





ฝากกระเป๋าเสร็จผมก็ไปที่สถานี Yamagata ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ Information ว่าบัสที่จะไป Zao อยู่ตรงไหน ผมลองวนหาแล้วแถวนั้นยังไม่เจอจนได้ข้อมูลว่าอยู่อีกฝั่ง ผมเลยรีบไปทันได้บัสไป Zao รอบ 2 พอดี ดูทุลักทุเลหน่อยๆ เช้าวันนี้ ตื่นสาย แล้วมางงกับการฝากกระเป๋า แล้วยังหาจุดขายตั๋วบัสไม่เจออีก





มาถึงที่สถานีรถบัส Zao onsen แล้วต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 1 กม. เพื่อไปที่ Ropeway เพื่อขึ้นไปดู Snow monster ระหว่างทางเจอ Lawson แวะซื้อข้าวกินเอาแรงก่อน

เข้าไป Lawson ก็จัดข้าวหน้าเนื้อมาให้เดาน่าจะผัดกับขิงเพราะได้กลิ่นขิงนิด อร่อยมาก 555 อันนี้อยากให้มาลองชิมเองจริงๆ อร่อยทุกอย่าง










Ropeway zao ต่อแถวระหว่างรอขึ้นไปข้างบนคนเยอะมาก ส่วนใหญ่คนมาเล่นสกีกัน








ที่นี้กระเช้าจะมี 2 ชั้น ชั้นที่ 1 จะชื่อว่า Juhyokogen Station ตรงนี้ก็สามารถเดินออกไปถ่ายรูป Snow Monster ได้แต่จะไม่หนาเท่าชั้น 2 ถ้าใครมาอยากให้แนะนำขึ้นไปชั้น 2 ชื่อว่า Jizo Sancho Station ข้างบนจะมีห้องอุ่นให้รับประทานอาหาร นั่งชม Snow Monster ด้วย











เวลาผ่านไปสักพักท้องฟ้าเริ่มเปิด เริ่มเห็น Snow Monster เยอะแยะมากมายสุดขอบฟ้า












หลังจากที่ชม Snow monster เสร็จ ผมเดินทางกลับไปยังสถานี Yamagata เพื่อนั่งรถไฟไปสถานี Oishida เพื่อจะไป Ginzan onsen ตามแพลน แต่ด้วยการที่ผมตื่นสายผิดแผนจากเช้าวันนี้ทำให้คำนวณรอบรถแล้ว ผมสามารถไปทัน Bus ในรอบขาไป แต่ขากลับไม่ทัน Bus คิดว่าแล้วว่าต้องยอมเรียกแท็กซี่เพื่อกลับมายังสถานี Oishida
ขาไป Oichida Station ไปยัง Ginzan Hot Station รอบรถ Bus : 14.10, 15.55, 17.45 ขากลับ Ginzan Hot Spring ไปยัง Oichida Station รอบรถ Bus 14.55, 16.35, 18.20





Ginzan onsen ใครที่จะมาวางแผนดีๆนะ แนะนำว่าควรมาให้ทัน Bus รอบแรกหรือรอบ 2 แล้วคำนวณเวลาขากลับดีๆ แต่ของผมผิดแพลนนิดหน่อยในเรื่องของเวลาเลยได้รอบสุดท้าย ซึ่งรอบสุดท้ายในขาไปเราถึง Ginzan onsen 18.20 นั้นแปลว่าเวลาเดียวกับรอบขากลับ ซึ่งนั้นทำให้เราไม่มี Bus กลับมายังสถานี โอชิดะ









Ginzan Onsen เป็นแพลนที่อยากได้ภาพสวยๆที่สุดแต่ผิดแพลนในเรื่องของเวลาผมมาถึงที่นี้ซะมืดค่ำเลย ร้านค้าปิดหมดแล้วบวกกับในการถ่ายภาพ ควรมาช่วงเวลารอยต่อระหว่างสว่างกับมืดจะได้ทั้งแสงไฟจากตัวอาคารและบรรยากาศข้างนอกก็จะยังเห็น
การเดินทางกลับจาก Ginzan ในเวลาที่ไม่มี Bus แล้วค่อนข้างยาก ผมจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังผมเกือบไม่ได้กลับ Yamagata เพราะคิดว่า Taxi เรียกได้ง่าย จากข้อมูลที่ผมได้สอบถามคนที่รู้จัก หรือตามกลุ่มไลน์เที่ยวญี่ปุ่น และหาข้อมูลตามกลุ่มใน Facebook ทุกคนก็จะบอกว่าให้เรียกแท็กซี่และราคาโหดเอาเรื่อง ซึ่งผมก็คิดแล้วว่ายังไงก็ต้องยอมจ่าย แลกกับการได้มาให้ครบตามแพลน แต่ความเป็นจริงแล้ว แท็กซี่ไม่มีเลย ผมก็ต้องเดินไปตามโรงแรมเพื่อขอความช่วยเหลือให้โรงแรมเรียกแท็กซี่ให้ ผมไปมา 3 โรงแรมและ 1 ร้านอาหารที่กำลังเปิดอยู่ เค้าไม่สามารถเรียกแท็กซี่ให้ผมได้ ทีนี้ทำไงละ ด้วยความที่ผมต้องเรียกแท็กซี่ให้ได้ ผมเดินกลับขึ้นไปยังจุดที่รถบัสมาส่ง ไปพบกับคนที่เค้ากำลังหาทางกลับไปยังสถานีโอชิดะเช่นเดียวกับผม ซึ่งเค้าได้ขอช่วยให้ชาวบ้านแถวนั้นเรียกให้ โชคดีที่เค้าช่วยเรียกให้ ผมก็พูดคุยตกลงกับเค้าแล้วนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน โล่งมากๆ คิดว่าจะต้องนอนอยู่ที่นี่แล้ว



ผมขึ้นมาบนรถไฟสายชินคันเซน ไม่มีคนเลยแอบหลอนๆเหมือนกัน

มาถึงปุ๊บวิ่งหาร้านข้าวก่อนเลยหิวมาก






สำหรับวันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากๆวันนึง ซึ่งแพลนว่าโหดแล้วเจอเรื่องผิดแพลนกับเวลาโหดกว่าซึ่งโดยปกติการที่ไป Zao Snow Monster และ Ginzan Onsen ในวันเดียวกันไม่แนะนำให้ทำค่อยข้างลำบากแล้วทำให้สถานที่ที่เราไปอยู่ได้ไม่นานน ซึ่งในครั้งนี้ผมตื่นสาย แล้วใช้เวลาอยู่กับ Zao นานจนทำให้ที่ Ginzan อยู่ได้ไม่นาน แต่ก็ถือว่าแพลนไม่ได้เสีย ยังดีที่ได้ภาพกลับมา







เป็นอีกวันที่ยังอยู่ที่ Tohoku เช้าของวันนี้ตามแพลนผมเดินทางไปหมู่บ้านโออุจิ จูคุ (Ouchi-Juku) เหมือนเช่นเดิมตื่นเช้ามากเพื่อมาให้ทันรถไฟรอบแรกที่ Yamagata วันนี้ผมต้องนั่งรถไฟนานหน่อยเพราะจาก Yamagata ไปที่นั้นต้องเปลี่ยนสายรถไฟทั้งหมด 3 สาย Yamagata > Koriyama > Aizu-Wakamatsu > Yunokamionsen แล้วก็ต้องต่อ Bus เพื่อนั่งไปยังหมู่บ้านซึ่งรอบ Bus ก็มีไม่เยอะ เช่นเดิม





ถึงสถานีจะมี Bus จอดรอรับนักท่องเที่ยวตามรอบ ขาไปออกจากสถานี Yunokamionsen 10.20 11.20 12.10 13.35 14.45 ส่วนขากลับ 10.40 11.40 12.30 13.55 15.05

































ที่หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่จะอยู่ Tohoku วันนี้ต้องนั่งรถไฟกลับไปยังโตเกียวเพื่อนไปนอนที่โตเกียวในเช้าของอีกวันจะเป็นการเที่ยวในโตเกียวและเดินทางซื้อของฝากให้กับเพื่อนๆพี่ๆ

สำหรับวันถัดไปเป็นวันที่เที่ยว กินช้อปปิ้งในโตเกียว และซื้อของฝากให้เพื่อนๆพี่ ใครอยากดูภาพไปดูได้ใน Facebook: Natdanai และ IG: Natdanai.kt
Leave a Reply