วันแรกของการเดินทาง ออกจากด่านศุลกากรสะเดา 6 โมงเช้า เป็นเวลาของประเทศมาเลเซียซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ทำให้ผมต้องปรับการใช้ชีวิต ในตลอดทริปนี้

เป็นเวลานานมากแล้วที่ผมไม่ได้เที่ยวนอกประเทศไทยเลย เพราะกะว่าจะเที่ยวในประเทศให้เริ่มรู้สึกว่า ที่ดังๆ ที่คนเค้าชอบไปกัน เราไปมาหมดแล้ว ซึ่งผมอาจจะพูดได้ว่า ประมาณ 80% แล้วที่ผมไปมา แต่หลายๆทริปก็ไม่ได้เอามาเขียนบันทึกไว้ในบล็อกนี้ ส่วนใหญ่จะลงสตอรี่ ig ซะมากกว่า เพราะเป็นทริปเล็กๆ

วันแรกของส่วนใหญ่จะเป็นการนั่งรถ เพราะระยะทางกว่าจะไปถึงสิงค์โปรเกือบ 1000 กิโลเมตร ใครที่ขับรถมาเองหรือมากับบัส สถานที่ที่ต้องแวะเลยคือที่พักรถ ในประเทศมาเลเซียบนทางด่วน จะมีจุดพักรถเป็นระยะๆ ซึ่งจุดพักรถนี้ไม่ใช่ปั้มน้ำมันนะครับ เป็นจุดไว้แวะพักสำหรับคนที่ต้องการจะเข้าห้องน้ำ หรือหิวโดยจะมีร้านขายของเป็นรถเข็น หรือบางจุดถ้าที่ใหญ่ๆหน่อยจะเป็นตัวอาคาร

สถานที่แรกที่มาถึงเป็น มัสยิดปุตรา บาจา-โยโฮบารูห์ เป็นมัสยิดที่สำคัญในปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย มัสยิดเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 1997 จนแล้วเสร็จอีก 2 ปีถัดมา ตั้งอยู่ข้างกับเปอร์ดานาปูตรา ซึ่งเป็นทำเนียบรัฐบาลของมาเลเซีย และทะเลสาบปูตราจายา ทะเลสาบที่สร้างโดยมนุษย์ ด้านหน้าของมัสยิดยังมีจตุรัสที่ประดับด้วยธงแต่ละรัฐของมาเลเซีย

หลังจากถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อย ก็เดินทางการต่อเป้าหมายของเราอยู่ รัฐยะโฮบารูห์ เมืองใต้สุดของประเทศมาเลเซีย ที่ติดกับชายแดนประเทศสิงคโปร์ ต้องขับรถไปอีก 350 กว่ากิโลเมตร

ถึงโรงแรม TROVE HOTEL ประมาณ 22.00 น. ราคาที่พักถ้าช่วงปกติ อยู่ประมาณ 227.30 ริงกิต ถ้าช่วงไฮซีซั่น 378.84 ริงกิต ชี้เป้า

ห้องพักโอเค สะอาดมีอุปกรณ์ เตารีด ตู้กดน้ำเย็น น้ำร้อน น้ำอุ่น ตู้เซฟ ตู้เย็น บริการพร้อม

เช้าของอีกวันยังอยู่ที่โรงแรมเดิม มีมื้อเช้าเป็นแบบบุฟเฟต์เหมือนกับโรงแรมทั่วๆไปในไทย

เริ่มต้นในทริปในสิงค์โปร Merlion Park

สถานที่แรกที่ไป Merlion Park (เมอร์ไลออน พาร์ค) ใครที่มาสิงค์โปรคงไม่พลาดสิงค์โตพ่นน้ำ เป็นสัญลักษ์ของประเทศสิงค์โปร์

สถานที่ต่อไป Singapore Flyer

ปกติที่ดูจากรีวิวตามเพจ จะเห็นแต่มุมจากข้างล่างมองไปที่ Sigapore Flyer ถ้าเรียกภาษาบ้านๆ ก็ชิงช้าสวรรค์นั้นแหละ 5555+ ใครจะขึ้นชิงช้ามีค่าบริการ SG 21$ ประมาร 530 บาท ณ วันนั้นเรทอยู่ที่ 26 กว่าๆ

เดินเข้ามาในตัวอาคารจะเห็นแคปซูล กำลังหมุน ภายในน่าจะจุคนได้ประมาณ 10 กว่าคน และบางแคปซูลจะมีบริการสำหรับคนที่ต้องการดินเนอร์ด้วย ราคาอยู่ที่ 351.92$ ต่อ 2 คน ใครสนใจ

จองผ่านทางนี้ https://www.singaporeflyer.com/en/ticket/singapore-flyer-sky-dining

ระหว่างรอคิวขึ้นมองไปอีกฝั่งจะเห็น การ์เด้นบายเดอะเบย์ จากมุมนี้ ขอแชะเก็บไว้หน่อย

Singapore Flyer จะหมุนครบ 1 รอบใช้เวลา 30 นาที โดยตั๋วแบบถูกที่สุดเรียกว่า Singapore Flight ราคาจะรวมค่าเข้า โซน Journey of Dreams ที่เป็น interactive multimedia gallery ที่เพิ่งเปิดใหม่ด้วย

ณ Maxwell food

เสร็จจาก Singapore Flyer ไปกินข้าวเที่ยงที่ Maxwell food เป็นศูนย์อาหารขึ้นชื่อในย่านไชน่าทาวน์ บริเวณนั้นจะมี Singapore Chinatown เป็นย่านที่มีของกินเยอะแยะมากมาย มีเสื้อผ้า ของใช้ ให้ช้อปปิ้งกัน มาที่นี่เป็นที่ละลายทรัพย์เลยละ ของกินเยอะมาก

ส่วนผมไม่ขออะไรมากสั่งเมนูอะไรสักอย่างไม่แน่ใจ แต่ดูแล้วน่าจะเป็นคล้ายๆก๋วยเตี๋ยว ข้างในจะมี หมูกรอบ หมูหมัก และมีเส้นก๋วยเตี๋ยว

การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (GARDENS BY THE BAY)

ช้อปปิ้งเสร็จเดินทางไปต่อที่ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ ที่จำลองการปลูกต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วโลก โดนแบ่งเป็นโซนๆ Flower Dome ซึ่งมีดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก โซน Cloud Forest Dome ซึ่งจำลองป่าดิบชื้นและมีน้ำตกขนาดใหญ่ และโซน Supertree Grove ซึ่งมีการแสดงแสงสีเสียงในช่วงกลางคืน

Gardens by the Bay สำหรับใครที่ไม่เข้าข้างในก็เดินรอบๆถ่ายรูปเล่นได้ ถ้าใครจะเข้าข้างในก็จะต้องซื้อตั๋วเข้าราคา 28$ หรือ 700 บาท บัตรเข้าชมจองผ่านเว็บ

https://www.klook.com/th/activity/127-gardens-by-the-bay-singapore/

บรรยายกาศข้างในมีมุมให้ถ่ายเยอะ

ช่วงเย็นไปต่อกันที่ท่าเรือ Clark Quay

ท่าเรือ Clark Quay เป็นแหล่งท่องเที่ยวตอนกลางคืนรอบๆจะมีร้านเหล้าให้นั่งชิลมากมาย ถ้าเทียบกับเมืองไทยก็น่าจะเป็นทองหล่อ แต่ผมไม่ได้ไปนั่งชิล แต่จะไปขึ้นเรือชมแสงสีของสิงค์โปร

ใครที่อยากล่องเรือชมเมืองสิงค์โปร ราคาอยู่ที่ 25$ หรือประมาณ 625 บาท จองออนไลน์

จองได้ที่ https://www.klook.com/th/activity/3846-river-cruise-singapore/

ความโชคร้ายของวันที่ไปล่องเรือคือฝนตกครับ ตกแบบปรอยๆ ไม่ได้ตกหนักอะไรมาก แต่ก็ทำให้บรรยายกาศดรอปลงหน่อย แต่โชคดีที่ยังได้ภาพสวยๆมากฝาก จากกล้อง iPhone เอาอยู่นะ 555+

มองหาร้านแบบ Local กินกะว่าจะประหยัดงบ เลยไปเจอร้านนึงดูดี คนนั่งกินเยอะ น่าจะอร่อย ได้เมนูมาใช้เวลาเลือกอยู่พักนึงเพราะแปลไม่ออกด้วย บางอย่างก็พอแปลออก เลยตัดสินใจสั่งอันนี้ละกันง่ายดี ข้าวผัดเสฉวน (Sichuan Fried Rice) ราคา 9$ หรือราคาไทย 238 กว่าบาท สิ่งที่ได้ตามภาพข้างบนเลย รสชาติจืดมาก แถมประเทศเขาไม่มีพริกน้ำปลาอีกนะ 5555+

กินข้าวผัดเสฉวนเสร็จ รู้สึกยังไม่อิ่มเท่าไหร่ ด้วยรสชาติที่มันไม่มีความอร่อยเลยต้องพึ่ง 7-11 ที่เราคุ้นเคย น้ำ 1 ขวด ขนมหนึ่งชิ้น น่าจะเอาอยู่ เดินกลับโรงแรมนอน 5555+

เช้าของอีกวันมากันที่ Fort Canning Park

คนไทยมักจะเรียกที่นี่ว่า อุโมงค์ต้นไม้สิงคโปร์ อยู่ใกล้สถานี Dhoby Ghaut ทางออก B เดินแค่ 5 นาที เข้าถ่ายรูปฟรี วันที่ผมมาไปถึงประมาณ 7 โมงเช้า คิวยาวเป็นหางว่าวเลย จนคนล้นออกมากะว่าจะไม่เอาแล้วภาพ แต่ก็ต่อคิวรอจนได้ถ่ายประมาณ 2 ชั่วโมง

สำหรับใครที่จะตามพิกัดมาแนะนำว่าให้มาตั้งแต่เช้ามืดเลยครับ จะได้คิวแรกๆ แล้วได้มาวางแผนหามงหามุมกันก่อน ถ้ามาช่วง 7-8 โมง คนเยอะบางทีต่อคิวแล้วภาพที่ถ่ายออกมาก็ยังจะติดคนด้วย เพราะที่นี่ไม่มีเจ้าหน้าที่เป็นสวนสาธารณะ คนที่มาต้องจัดระบบคิวกันเอง

ไปต่อกันที่ Universal Studios Singapore

ราคาเข้าชมอยู่ที่ประมาณ 81$ หรือประมาณ 2000 กว่าบาทนะครับ แต่ที่นี่ผมไม่ได้เข้า เพราะรู้สึกไม่ค่อยสนุกกับเครื่องเล่นแล้ว 5555+

จองออนไลน์ได้ที่ https://www.klook.com/th/activity/117-universal-studios-singapore/

นอกจาก Universal แล้วบริเวณที่รอบๆ มีที่เที่ยวเยอะ S.E.A. Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปเที่ยวเกาะ Sentosa ก็ได้ หรือถ้าเดินลงไปชั้นใต้จะมี ร้านอาหารเยอะแยะมากมาย หรือถ้าใครคิดว่าแน่ก็เข้าไปเล่นโคสิโนได้นะครับ แต่อายุต้องเกิน 21 ปี

รอบจะๆมีโซนให้ซื้อของฝากด้วย แวะจัดของฝากเล็กๆน้อยไป 18$

โซนนี้จะเป็นโซนข้างล่างของ Universal ใครอยากหาอะไรกินลงมาข้างล่างได้ ร้านอาหารเยอะ

เดินมาสักพักเริ่มจะหิว จัดไก่สักหน่อยของ Texas จัดมา 2 ชุด ชุดละ 11.90$

บ่อนคาสิโนสิงค์โปร ผมแค่มาถ่ายรูปข้างหน้าเฉยๆ เดินชมรอบๆ แต่ไม่ได้เข้านะ ไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรบ้าง แต่เข้าได้ถึงเข้าไปคงจะไม่ได้อะไรติดมือออกมา เพราะเล่นไม่เป็นค้าบบบ 555

S.E.A. Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

ที่นี่ไม่รู้จะเล่าอะไร เพราะในไทยก็มีอยู่หลายจังหวัดที่มี Aquarium แบบนี้ แต่ที่สิงค์โปรราคาค่อนข้างที่จะสูงหน่อย ราคาผู้ใหญ่ 51$ ประมาณ 1275 บาท

จองได้ที่ https://www.klook.com/th/activity/119-sea-aquarium-singapore/

เกาะ Sentosa

ที่นี่เป็นอีกที่ที่ต้องมา เกาะ Sentosa จะเป็นการนั่งกระเช้าลอยฟ้าภูเขาเฟเบอร์ เป็นกระเช้าเพื่อขึ้นไปยังภูเขาเฟเบอร์ที่สูงเป็นอันดับสองของประเทศสิงคโปร์ นั่งข้ามเกาะจะเห็นวิวทั่วสิงคโปร์ ราคาขึ้นกระเช้าราคา 35$ หรือ 875 บาท

จองได้ที่ https://www.klook.com/th/activity/130-faber-peak-cable-car-singapore/

วิธีการเดินทางถ้าเรามาจาก Universal ให้เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Imbiah แล้วซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าที่นั้นได้เลย จะมีจุดบริการขายตั๋ว

แวะพักที่พักกินน้ำที่ ViVo City

ระหว่างเกาะ Sentosa จะมีห้างที่คนสิงค์โปรนิยมมาช้อปปิ้ง พักผ่อน อ่านหนังสือ กันที่ห้าง ViVo City ผมใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในห้างประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ทั่วแล้วแต่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย ของแต่ละชิ้นราคาแรงมาก

ชั้น 3 ของห้าง Vivo วันนั้นเป็นวันที่ทางรถไฟฟ้าสิงค์โปร ให้บริการฟรีเนื่องด้วยวันหยุดอะไรสักอย่าง ไปจนถึงสถานีที่ตั้งของ Universal

โซนอาหาร Malaysian Food Street

ไหนๆก็เข้ามาแล้วจัดสักจาน

สั่งฮกเกี้ยนหมี่มากิน เป็นอาหารเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดปรุงสุกในแบบฮกเกี้ยน ต้นตำหรับจากจีน รสชาติโอเคเลยอร่อย ราคาอยู่ที่ 9$ ประมาณ 240 กว่าบาท เหมือนกับจานอื่นๆ

กลับเข้าที่พักตกดึกก็ยังรู้สึกหิวเหมือนเดิมเลยจัด มาม่าเกาหลี 1 ถ้วย ฟินๆไป

พรุ่งนี้เช้าจะเป็นวันที่ต้องนั่งรถทั้งวันกว่าจะที่หาดใหญ่ก็จะประมาณ 4-5 ทุ่มตามเวลาของประเทศไทย แต่จะต้องถึงก่อน 5 ทุ่มเพราะด่านไทยปิด 5 ทุ่ม

ตึกแฝดปิโตรนาส Petronas Twin Towers

ไหนก็เป็นทางผ่านแวะถ่ายรูปสักหน่อยที่ตึกแฝดประเทศมาเลเซีย

จากสิงคโปร์เดินทางมาถึงด่านไทยประมาณ 4 ทุ่มครับ เป็นอันจบทริปครับกับการเดินทางโดยรถ ทำให้เราได้เห็นอะไรๆหลายๆอย่างตามเส้นทางจากไทยผ่านมาเลเซีย ไปจนถึงสิงค์โปร ว่าระหว่าง 3 ประเทศนี้มีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง

และทริปนี้จะสมบูรณ์ไม่ได้ถ้าขาด บัตร Planet SCB แลกเงินต่างประเทศได้เรทดีเท่าร้านแลกเงิน ทริปหน้าจะลองเปลี่ยนไปใช้ YouTrip บ้าง เห็นเค้าว่าค่าธรรมเนียมและเรทดีกว่าเยอะ